EP.38
ลุ้นรักตามสายลม” (Blow Breeze / Windy Mi-poong) นำเสนอเรื่องราวของหญิงสาวชาวเกาหลีเหนือซึ่งมีชีวิตในวัยเด็กที่เพียบพร้อมและรักการเต้นเป็นชีวิตจิตใจ เธอมีชื่อว่า “คิม ซึงฮี“ เคยศึกษาทั้งที่สวิตเซอร์แลนด์และมาเก๊า (เธอเจอ “ลี จางโก” เด็กชาวเกาหลีใต้ซึ่งเป็น ‘รักแรก’ ที่มาเก๊า) หลังย้ายไปเรียนที่มาเก๊าเมื่อปี ค.ศ. 2002 ได้ไม่นาน ครอบครัวซึงฮีก็ย้ายกลับไปอยู่ที่เมืองพยองยาง (เปียงยาง) ในเกาหลีเหนือ เธอและครอบครัวเป็นผู้แปรพักตร์ที่พยายามหลบหนีเข้าเกาหลีใต้เพื่อตามหาญาติผู้ใหญ่ (ปู่) ที่พลัดพราก แต่พ่อและพี่ชายเธอโชคร้ายถูกทหารยิงขณะหนีข้ามพรมแดน แม้ซึงฮีกับแม่และหลานชาย (ลูกพี่ชาย) จะหลบหนีเข้าเกาหลีใต้ได้สำเร็จ แต่ทุกคนกลับต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในกรุงโซล เพราะทรัพย์สินมากมายทั้งหมดถูก “ปาร์ค ชินแอ” ขโมยแล้วหนีไป (ชินแอเป็นเด็กกำพร้าที่มาขอพึ่งใบบุญครอบครัวซึงฮีตั้งแต่เด็ก) แม่จึงบอกให้ซึ่งฮีตามหาปู่ (ทั้งที่ไม่รู้ว่าปู่ชื่ออะไร) เพื่อที่พวกตนจะได้ไม่ลำบาก แต่ซึงฮีไม่หวังพึ่งใครจึงแย้งว่าตนไม่ใช่ “คิม ซึงฮี” อีกต่อไปแล้ว เธอต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในกรุงโซลจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “คิม มีพุง” (มีพุง แปลว่า สายลม)
“คิม ด็อกชอน” (ปู่ของมีพุง) เป็นผู้แปรพักตร์เกาหลีเหนือที่หลบหนีเข้าเกาหลีใต้พร้อมญาติคนหนึ่งขณะเกิดสงครามปลดปล่อยมาตุภูมิ (ตอนนั้นเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่กำลังจะถูกเกณฑ์ไปร่วมรบ) เขาเลยต้องพรากจากภรรยาและพ่อแม่นับแต่นั้นเป็นต้นมา (ด็อกชอนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนั้นภรรยากำลังตั้งครรภ์) เขารู้ว่าตนเหลือเวลาอีกไม่มากจึงเร่งสืบหาข่าวคราวของภรรยาและคนอื่นๆ ในครอบครัวโดยหวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งก่อนตาย ครั้นรู้ว่าแท้จริงแล้วตนมีลูกชายด็อกชอนก็รู้สึกดีใจ แต่สุดท้ายกลับพบว่าลูกชายและทุกคนในครอบครัวเสียชีวิตแล้ว ในเวลาต่อมาเขาพบว่าตนมีหลานสาวคนหนึ่งแถมเธอยังอยู่ที่เกาหลีใต้ เขาจึงพยายามสืบหาหลานสาวหมายให้เป็นผู้รับมรดกมูลค่านับแสนล้านวอน (เกือบ 3 พันล้านบาท)
มีพุงได้พบ “ลี จางโก” อีกครั้งที่กรุงโซล แต่คราวนี้สถานะของทั้งคู่ได้เปลี่ยนไป มีพุงกลายเป็นคุณหนูตกยาก ส่วนจางโกเป็นทนายที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชน แม้เธอกับจางโกจะสานสัมพันธ์จนกลายเป็นความรัก แต่ปัญหาด้านเชื้อชาติและสถานะที่แตกต่างทำให้ทั้งคู่ต้องพบเจออุปสรรคมากมาย สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ติดตามชมได้ใน “ลุ้นรักตามสายลม