All the Way คือสโลแกนที่ลินดอน จอห์นสันใช้ตอนหาเสียงครับ ส่วนในหนังก็จะเล่าตั้งแต่ตอนเขาได้ตำแหน่งประธานาธิบดี “แบบอัตโนมัติ” หลังการเสียชีวิตของจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ซึ่งตอนนั้นเขาก็โดนครหาล่ะครับว่าเป็นประธานาธิบดีแบบฟลุ๊คๆ บ้าง หรือบางคนก็มองไปถึงขั้นว่าเขามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการลอบสังหารเลยก็มี
ชื่อเสียงของลินดอน จอห์นสันนั้นมักถูกเอ่ยถึงในแง่กลางๆ หรือไม่ก็ลบครับ แม้เขาจะทำประโยชน์หลายเรื่อง แต่ก็มักถูกครหาโดยเฉพาะในเรื่องการตัดสินใจที่บางครั้งก็ไม่เด็ดขาด หรือบางทีเขาทำเด็ดขาด แต่ก็ทำให้คนบางฝ่ายไม่พอใจ (สุดท้ายก็ออกมาครหาเขาอีก)
ตอนแรกผมก็อยากรู้นะว่าหนังจะนำเสนอแบบไหน จะเอามุมดีของเขามาเล่าหรือไม่ และผลที่ได้ก็ไม่เกินคาดครับ หนังถ่ายทอดชีวิตของลินดอน จอห์นสันตอนเป็นประธานาธิบดี ในมุมที่ว่าเขาเป็นคนที่ไม่เด็ดขาด บางครั้งก็กลัวปัจจัยต่างๆ จนกว่าจะตัดสินใจอะไรสักอย่างได้ก็กินเวลานานเกินไปซะแล้ว
แต่หนังก็ไม่ได้มองลินดอนในแง่ลบจนเกินไปครับ เพราะขณะเดียวกันหนังก็พยายามสื่อให้เห็นว่า ลินดอนเองก็โดนบีบจากรอบด้าน ไม่ว่าจะคนในพรรค คนใกล้ตัว นักการเมืองฝ่ายตรงข้าม กระแสสังคม สื่อ ฯลฯ จนทำให้เราพอจะเข้าใจเหมือนกันว่า คนส่วนใหญ่หากต้องไปอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเขา ก็อาจตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากเขาก็ได้
Bryan Cranston เป็นลินดอนได้อย่างน่าสนใจครับ เขาตีบทในมุมที่ทำให้เราเห็นเลยว่าลินดอนมีความเข้มแข็งก็จริง แต่กระนั้นก็มีความอ่อนแอผสมอยู่ (อาจจะในปริมาณที่มากกว่า) ยิ่งการที่คนรอบตัวเขาส่วนใหญ่จ้องจะหักหลัง (หรือไม่ก็เห็นแต่ประโยชน์ตนเองจนหันหลังให้เขา) ก็ยิ่งทำให้เขากดดัน แต่เนื่องจากเขาเป็น ปธน. ก็ทำให้ต้องเก็บงำความกดดันนั้นเอาไว้
จุดที่น่าสนใจของหนังคือ หนังนำเสนอตัวละครหลักๆ ในมุมที่เราไม่ค่อยจะได้เห็นครับ อย่างลินดอนก็เสมอในมุมว่าเขาเป็นคนลังเลและไมค่อยกล้าเผชิญหน้า ซึ่งก็ถือว่ากล้าพอดูครับที่เอาอดีตประธานาธิบดีของตนเองมานำเสนอในแง่นั้น (จริงๆ นอกจากนิกสันที่ทำผิดแบบโต้งๆ กับ บิล คลินตันที่เคยทำเรื่องอื้อฉาวแล้ว เราก็ไม่ค่อยได้เห็นประธานาธิบดีในประวัติศาสตร์ถูกพูดถึงในมุมนี้สักเท่าไร)
หรือ ดร.มาร์ติน ลูเธอร์ คิง ที่เรามักเห็นภาพของเขาในมุมคนแกร่ง คนกล้า คนที่หาญท้าทุกสิ่งเพื่อความฝันอันยิ่งใหญ่ มาในเรื่องนี้เราก็จะได้เห็นอีกมุมครับ ไม่ว่าจะมุมลังเล, เรื่องชู้สาว หรือการยอมอ่อนข้อให้กับคนบางกลุ่มเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง (ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่า บางครั้งคิงก็ทำสิ่งที่ “ไม่สะอาด” ได้เหมือนกัน)
หลายปีที่ผ่านมาเรามักได้ดูหนังการเมืองที่พยายามชูประเด็นว่าคนเล่นการเมืองควรมือสะอาด แต่พอมาคิดจริงๆ แล้ว คนมือสะอาดสักกี่คนที่จะฝ่าด่านอรหันต์ไปยืนอยู่แถวหน้าได้ ในเมื่อหากมองดีๆ จะพบว่าเรื่องการเมือง การบริหารประเทศ มันคือเรื่องผลประโยชน์ก้อนใหญ่