เรื่องราวเล่าถึงศตวรรษที่ 13 ในสก๊อตแลนด์ ที่ชาวเมืองเริ่มทนไม่ได้กับกฎของกษัตริย์อังกฤษที่ถูกตีตราออกมาให้ชาวเมืองเคารพตาม เมื่อภรรยาที่รักของวิลเลี่ยม วอเลซ (Mel gibson) ได้ถูกทำร้ายและฆ่าโดยเหล่าทหารอังกฤษ จนทำให้วอลเลซแก้แค้นเหล่าทหารแทนภรรยาของเขา สานต่อไปสู่การต่อสู้เรียกร้องอิสรภาพเพื่อประเทศชาติของเขา ความกล้าหาญของเขาดลใจให้ชาวสก๊อตทุกคน จับอาวุธขึ้นต่อต้านอังกฤษ จนบังเกิดสงครามที่ลือเลื่องอีกครั้งในประวัติศาสตร์
หนังที่กำกับโดยเมล กิ๊บสัน …ที่ผลงานลายมือในการกำกับนั้นเข้าขั้นไม่ธรรมดาพอๆ กับการแสดงอันยอดเยี่ยมของเขาเลย หลายอย่างที่ได้ปรากฏในเรื่องนี้ กิ๊บสันสามารถคุมหนังออกมาให้มีความหึกเหิมอย่างบ้าคลั่ง ความงดงามท่ามกลางความรุนแรง บวกกับงานประพันธ์ดนตรีอันเป็นเอกลักษณ์และยอดเยี่ยมของ James Horner (ผู้ทำดนตรีให้กับ Titanic) ยิ่งบางฉากที่ทรงพลังมากๆ เมื่อภาพกับเสียงเข้าประกอบกัน เลยบังเกิดเป็นความยิ่งใหญ่จนเข้าขั้นขนลุกเลยทีเดียว
มันเป็นหนังสงครามที่ครบทุกสูตรหนังสงครามที่ควรจะเป็น แต่ถูกนำเสนอออกมาได้อย่างลื่นไหล ยอดเยี่ยม มีพลังงานที่เดือดพล่านและน่าประหวั่นพรั่นพรึงมากที่สุด หลายๆ ฉากเราจะพบกับความรุนแรงของสงครามที่อยู่ในขั้นชนิดนองเลือด ภาพการทรมาน การต่อสู้ ถูกนำเสนอออกมาอย่างไม่ประนีประนอมคนดู นั่นจึงก่อให้เกิดความมันส์สาแก่ใจบวกกับความฮึกเหิมแก่คนดูเป็นอย่างยิ่ง และเหล่าทหารที่นำทีมโดยวอลเลซ ก็มีท่าทีที่เย้ยหยันต่อฝ่ายตรงข้ามจนสร้างความสะใจและน่าขบขันอยู่ไม่น้อย มีความบ้าเลือด ฉากสงครามถูกทำได้ออกมาอย่างสมจริง เร้าอารมณ์ แฝงไปด้วยเลือดความรักชาติที่พุ่งพล่านแทบทุกวินาทีของหนัง (จนเราคนดูเองก็แทบจะถือดาบวิ่งไปแบบตัวละครในเรื่องบ้าง)
คือมันเป็นหนังสงครามที่ยอดเยี่ยมอีกเรื่องหนึ่ง ทุกฉากถูกนำเสนอออกมาได้ดีมาก ซึ่งนั่นน่าจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเมล กิ๊บสัน …ก็สามารถกำกับงานหนัง (ที่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวที่สร้างมาจากเรื่องจริงในสมัยบรรพกาลหรือย้อนยุค) ได้ออกมาชนิดทรงพลัง บีบเค้นอารมณ์ ความรุนแรง แฝงไปด้วยความหมายที่ตั้งคำถามต่อคนดู เย้ยหยันและชวนสะเทือนใจ
สรุปแล้ว เบรฟฮาร์ท วีรบุรุษหัวใจมหากาฬ …คือหนังสงครามที่ควรหามาดูอย่างยิ่งยวด มันเต็มไปด้วยความรักชาติ ความบ้าคลั่งต่อการสู้รบของชาวเมืองสก๊อตแลนด์ที่แม้กำลังพลจะไม่สามารถทัดเทียมกับของอังกฤษได้ แต่ภาพเหตุการณ์สงครามสุดมันส์และแสนจะสะเทือนใจในเรื่องนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ตามที่วอลเลซได้เอ่ยออกมาในตอนท้ายว่า… “อิสรภาพ” สู้เพื่ออิสรภาพ ของชาติสก๊อตแลนด์