โคลอี้ เป็นสาวสวยที่ดูภายนอกก็ไม่ต่างไปจากเด็กสาววัยเดียวกันเธอดูไร้เดียงสา น่าถนุถนอม แต่ความจริงแล้ว ตัวเธอหาได้เป็นอย่างภาพลักษณ์ภายนอกไม่ เพราะเธอทั้งฉลาด และยังเข้าใจทุกวิธีในการที่จะทำให้บรรดาชายหนุ่มที่เข้ามาหาเธอตกอยู่ภาย ใต้ภวังค์ของเธออย่างง่ายๆ เธอรู้วิธีที่จะเย้ายั่วพวกเขาเหล่านั้นให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น “ความรัก” ในมุมมองของ โคลอี้ คือการแลกเปลี่ยน โดยใช้เรือนร่างเข้าแลก และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา
ส่วน แคทธาลีน เป็นสาวใหญ่ที่มีอาชีพเป็นหมดสูติฯ เธอมีชีวิตที่ดูภายนอกเหมือนจะสมบูรณ์ จนกระทั่งเธอเริ่มคิดว่า สามีของเธอ เดวิด อาจจะกำลังนอกใจเธอ ระหว่างที่ แคทธาลีน กำลังช็อคกับปัญหาชีวิตที่อยู่ตรงหน้าก็เหมือนโชคชะตาที่ทำให้เธอได้เจอกับ โคลอี้ ทั้งสองคุยกันอย่างถูกคอ และจบลงที่เธอจ้าง โคลอี้ ให้ไปยั่วยวนสามีของเธอเพื่อหาคำตอบ และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของวังวนแห่งตัณหา และ ความเร่าร้อนของความรักที่เกินห้ามใจ !
ผู้กำกับ “Atom Egoyan” พิถีพิถันในการถ่ายทอดเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ได้อย่างละเมียดอารมณ์ และ ชวนติดตาม แม้เนื้อหาดูจะไม่น่าจะมีอะไรซับซ้อนมาก กับเรื่องราวของ 2 ผัวเมียที่มีปัญหา พร้อม การเข้ามาของสาวน้อยนางหนึ่งที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของทุกคนที่เกี่ยวข้อง พร้อมตัวละครเพียงไม่กี่ตัวที่ใช้ในการเดินเรื่อง ผู้กำกับ Egoyan ใช้ ความฉลาดในการเล่าเรื่อง โดยการใส่ “ลูกเล่น” ลงไปในตัวของบทเพื่อให้ผู้ชมได้เดาเนื้อเรื่องได้อย่างหลากหลายและพลิกไปมา อยู่ตลอดเวลา ซึ่งนอกจากมันจะทำให้หนังดูมีชั้นเชิงมากขึ้นแล้ว มันยังส่งผลในเรื่องความสมบูรณ์ในส่วนของ “อารมณ์ตัวละคร” นั้นๆอีกด้วย Egoyan นอกจากจะแสดงฝีมือในการถักทอนำเสนอเรื่องราวแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึง การเล่นกับอารมณ์ของผู้ชมตั้งเริ่มเรื่องจนถึงฉากจบที่เชื่อเลยว่ามันกระชาก อารมณ์และกรีดหัวใจผู้ชมอย่างลึกๆ เรื่องหนึ่งในทำเนียบหนังแนวนี้เลยทีเดียว
Chloe จัดอยู่ในหนังประเภท “ผู้หญิงร้าย” ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ตัวเองหมายปอง ซึ่งจัดเป็นพล็อกเรื่องที่พบเห็นอยู่ค่อนข้างบ่อยครับ ซึ่งส่วนที่จะวัดกันจริงๆของหนังแนวนี้ก็คือ “การสร้างตัวละคร” ให้มีความลึกทั้งในด้านของตัวตน และ อารมณ์ เพราะหนังจะสามารถทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมได้หรือไม่ก็อยู่ที่จุดๆนี้ละครับ ซึ่ง Chloe เองก็ดูเหมือนจะมีตรงนี้เป็น “จุดแข็ง” อย่างหนึ่งของหนังสะด้วย