Green Zone ถือเป็นตัวอย่างหนังแอ็กชันดีๆ ที่ดูแล้วได้ทั้งความตื่นเต้นเร้าใจและสาระชวนคิด
Matt Damon รับบทเป็นมิลเลอร์ หัวหน้าทหารผู้มีหน้าที่นำหน่วยของตนไล่ล่าค้นหาอาวุธเคมีที่อาจซ่อนอยู่ที่ใดที่หนึ่งในอิรัก แต่เขาก็พบว่าข่าวกรองที่ตัวเองได้มามันผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำแล้ว บุกไปกี่ที่ก็ไม่เจออาวุธที่ว่าสักที จนเขาตั้งคำถามว่าแหล่งข่าวให้ข้อมูลผิดหรือเปล่า
ในที่สุดเขาก็พยายามจะหาความจริงครับ แต่บางครั้งการพยายามนำตัวเข้าใกล้ “ความจริง” ก็เท่ากับเพิ่มภัยอันตรายให้กับตัวเองไปโดยปริยาย
เป็นการแท็กทีมกันอีกรอบของ Damon กับ Paul Greengrass หลังจากดังสุดขีดไปด้วยกันจากหนัง Jason Bourne ภาค 2 และ 3 สำหรับเรื่องนี้ก็อาจไม่เด็ดดวงเท่าเรื่องนั้นครับ แต่ก็ถือว่าดูสนุกตื่นเต้นไม่ผิดหวัง อันนี้ขอชม Greengrass เลยว่าลีลามุมกล้องเหวี่ยงๆ และฉับไวนี่สามารถกระตุ้นอารมณ์ระทึกได้อย่างดี เรียกว่าในยุทธจักรมุมกล้องสไตล์นี้ นอกจาก Tony Scott ผู้ล่วงลับแล้ว ก็มี Greengrass ที่เหวี่ยงกล้องให้อารมณ์เราไหวตามได้
ในแง่ของเนื้อหาสาระก็เป็นการตั้งคำถามชวนให้เราคิดน่ะครับ ว่าหากเรามีหน้าที่ทำอะไรสักอย่างเพื่อประเทศชาติ แต่เอาเข้าจริงๆ แล้วคนเบื้องบนกำลังเล่นเกมเพื่อผลประโยชน์ โดยใช้เราเป็นเพียงหมากเป็นเพียงเบี้ยบนกระดาน ตามด้วยการให้ข่าวลวงกับเรา เพื่อให้เราทำตามที่เบื้องบนสั่ง ทั้งที่จริงๆ แล้วในสถานการณ์นั้นเราสามารถทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์กว่าได้ แต่เรากลับถูกห้ามไม่ให้ทำ และยังโดนบังคับให้ก้มหน้าเป็นหมากเป็นเบี้ยต่อไปอีกต่างหาก
เมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์นั้นเราจะทำอย่างไร… เราจะตามน้ำแบบหลับหูหลับตา หรือเราจะตามล่าหาความจริง?
แน่นอนครับว่าในเรื่องมิลเลอร์เป็นคนประเภทหลัง หากรู้ว่าสิ่งที่ตนทำมันเสียเวลาเปล่า เขาก็พร้อมจะหันมาสืบความจริงด้วยตนเอง เพื่อรู้ให้ได้ว่าอะไรคือภารกิจที่สำคัญที่สุดที่เขาควรทำ ไม่ปล่อยให้ตัวเองบ้าจี้ไปกับคำลวงที่เบื้องบนป้อนให้แทนข้าวอยู่ทุกวันๆ
อีกเรื่องหนึ่งที่หนังกัดชาติอเมริกา (หรือชาติมหาอำนาจใหญ่ๆ) ได้แบบพอเหมาะก็คือการที่ชาติใหญ่ๆ พยายามจะยื่นมือไปจัดระเบียบให้กับประเทศต่างๆ ใช้แนวทางแบบอเมริกันไปปกครองและเปลี่ยนแปลงชาติอย่างตะวันออกกลาง ซึ่งถ้ามองในแง่ “หวังดีโลกสวย” ก็พอเข้าใจครับว่าอเมริกันมองว่าสิ่งที่เขาทำและพยายามจะเสนอให้นั้นคือสิ่งดี คือทางแห่งประชาธิปไตย
แต่ประเด็นคือการจะเอาระบอบปกครองแบบหนึ่งไปใช้กับประเทศที่ปกครองอีกแบบหนึ่งมาไม่รู้กี่ทศวรรษ มันคือทางที่เหมาะที่สุดจริงๆ หรือ?
ยิ่งในกรณีที่จะให้คนนอกประเทศนั้นไปเป็นผู้นำปกครองประเทศ เช่นนั้นจะถือว่าสมควรแค่ไหน? คนในประเทศนั้นๆ จะยอมรับได้มากน้อยแค่ไหน?
ฉากหนึ่งที่หนังตีประเด็นนี้แบบตรงๆ คือตอนท้ายเมื่อตัวละครชาวอิรักคนหนึ่งพูดหลังจากทำสิ่งหนึ่งลงไปว่า “เรื่องของประเทศเรา ให้เราตัดสินเองเถอะ”
Green Zone อาจไม่ใช่หนังที่มีประเด็นทางการเมืองแบบลึกซึ้งคมเข้ม แต่ก็ถือเป็นหนังที่สะกิดใจสะกิดสมองให้เรามองเหตุการณ์การแทรกแซงทางการเมืองที่เกิดขึ้นบนเวทีโลก เราอาจไม่เห็นด้วยกับที่หนังนำเสนอทั้งหมด แต่ก็ไม่เลวครับหากเราจะลองพิจารณามุมมองต่างๆ ให้หลากหลาย