เด็กโข่งจากนรก ภาคนี้เป็นการรีบู๊ตใหม่ แต่โครงเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปนัก นอกจากเพิ่มที่มาที่ไปของพระเอกให้มีปมมากขึ้น จากแค่ลูกปีศาจจากนรก ที่ถูกอัญเชิญขึ้นมาโดยนาซี กลายมาเป็นสืบสาวชาติกำเนิดไปไกลจนถึงยุคสมัยกษัตริย์อาเธอร์ ซึ่งภาคนี้พยายามผูกเรื่องไว้เป็นเมนธีมของเรื่อง โดยเน้นหนักไปที่ความสัมพันธ์พ่อบุญธรรมของ Hellboy ที่เป็นหัวหน้าหน่วยหน่วยบีพีอาร์ดี (B.P.R.D) หน่วยลับที่ต่อสู้กับสิ่งเหนือธรรมชาติมาตั้งแต่อดีต
ซึ่งการที่เก็บ Hellboy มาชุบเลี้ยงเหมือนลูกจริงๆ ไม่ได้ฆ่าทิ้งแบบที่เจอกับปีศาจตัวอื่นๆ นั่นทำให้ Hellboy รู้สึกว่างานที่เขาทำมาตลอดไม่จบสิ้นมันผิด ควรมีทางออกอื่นมากกว่าฆ่า ควรจะเป็นการอยู่ร่วมกัน หรือเป็นสันติวิธีแบบอื่นที่เขาต้องทำให้ได้
เรื่องย่อ : เฮลล์บอย (รอน เพิร์ลแมน) ซึ่งถือกำเนิดในเปลวเพลิงจากนรกเมื่อ 60 ปีก่อน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ถูกนำตัวมายังโลกโดยฝีมือของชายที่ชั่วร้าย กริกอรี่ ราสปูติน (คาเรล โรเด้น) เพื่อให้เขากระทำเรื่องชั่วร้าย เฮลล์บอยที่ถูกชะตากำหนด ให้เป็นผู้นำมาซึ่งหายนะล้างโลก ได้รับการช่วยเหลือจากกองทัพพันธมิตร ที่นำทีมโดย ศาสตราจารย์บรูม (จอห์น เฮิร์ต) ผู้ก่อตั้งศูนย์บัญชาการลับ บีพีอาร์ดี (BPRD – ศูนย์กลางเพื่อการค้นคว้า และป้องกันเหตุเหนือธรรมชาติ) ผู้เลี้ยงดูเฮลล์บอยมาเสมือนลูกในไส้ และได้พัฒนาความสามารถเหนือธรรมชาติของเขา
ธีมหลักของเรื่องแม้จะวางมาดูดี มีปม มีซีนดราม่าพ่อลูกบิ้วมาเรื่อยๆ แต่หนังก็ทำออกมาขาดๆ เกินๆ เป็นช่วงๆ กลายเป็นว่ายิ่งเล่นยิ่งเลอะเทอะไปเรื่อยๆ Hellboy เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย ไม่มีความคงที่ของอารมณ์ตามเรื่องราว ว่าจะเอาไงกันแน่กับปมนี้ของตัวเอง สุดท้ายแม้หนังจะพยายามบิ้วปมพ่อลูกคู่นี้ในไคลแม็กซ์ตอนหลัง มันก็ไม่อินไม่ซึ้งอะไรเลย
ตัว Hellboy เองก็แทบไม่ได้โชว์กึ๋น โชว์แอ็กชั่นเท่ๆ แบบเวอร์ชั่นก่อนเลย ดูจบยังไม่รู้เลยว่ามีความเก่งโดดเด่นยังไง พลังของอาวุธศักสิทธิ์ที่ตัวเอกมีก็แค่ไว้โชว์ แต่ไม่ได้ใช้งานจริงให้เป็นเรื่องราวใหญ่โตตามที่หนังวางไว้ ตัวหนังมีฉากแอ็กชั่นประปราย สเกลตอนท้ายดูใหญ่โต แต่อย่าหวังอะไรมากครับ มีแค่ตามเทรลเลอร์ที่ปล่อยออกมา ไม่ได้มีมากกว่านั้น ดูแล้วเหมือนตั้งใจเอามาหลอกขายในเทรลเลอร์ด้วยซ้ำ
แถมหนังภาคนี้พยายามใช้ฉากแหวะๆ มาขายมากกว่าฉากแอ็กชั่น จนกลายเป็นดูยัดเยียดไปมากๆ (ทั้งซูม ทั้งเน้นสมองไส้แตกกระจายเละเทะ) แล้วก็ไม่ได้ช่วยให้ตัวหนังดูดีมีคลาสขึ้นเลย ดูตกต่ำลงด้วยซ้ำที่มาใช้แนวทางนี้เป็นจุดขายจนเกินพอดี