พล็อตเรื่องถือว่าน่าสนใจมากเลยกับเรื่องที่เราอาจจะได้ยินเป็นโจ๊กตลกเล่นกันทุกชาติเรื่องอาการเบื่อเมียอยากให้ตายๆ สักที คนสร้างก็คงเอาไอเดียนี้มาบรรจบกับเรื่องแมว 9 ชีวิตที่ชาติไหนๆ ก็คงเคยได้ยินเรื่องนี้กันมาทั้งนั้น ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิดแมวมีชีวิตเดียวไม่ได้อึดขนาดนั้น แต่หนังก็เอามุกนี้มารวมร่างกับอาการเบื่อเมียแก อยากหาสาวเอ๊าะๆ มาแต่งใหม่ แต่ทำยังไงในเมื่อเมียเก่าก็ไม่มีทางยอมเลิกราหรือหย่าร้าง ซึ่งในเรื่องนี้เศรษฐีเฒ่า “อาเด็ม” กับภรรยา “เลย์ล่า” มาปรึกษาหาทางออกเรื่องปัญหาชีวิตคู่วัยทองกับหมอจิตวิทยา “เนอร์จิส” ที่จริงๆ แล้วเธอคือ ลิลิธ แม่มดหรือปีศาจรับใช้ซาตาน มีหน้าที่ยั่วยุผู้หญิงด้วยกันให้อิจฉาริษยา แล้วก็ปั่นหัวบุรุษให้หลงไหลในรูปโฉมงามของเธอ ซึ่งเนอร์จิสก็หลอกล่อได้สำเร็จทำให้อาเด็มมีความคิดอยากฆ่าภรรยาของตัวเองเพื่อมาแต่งกับเธอ แต่กลายเป็นแผนแล้วแผนเล่าก็ไม่อาจจะฆ่าเลย์ล่าที่ทนทายาดยิ่งกว่าแมลงสาบซะอีก
รีวิว Leyla Everlasting Netflix อีแก่จ๋าทำไมฆ่าไม่ตายสักที! (มีสปอยล์ตอนจบ) 1ตัวหนังมีส่วนแฟนตาซีใส่ไว้ตั้งแต่แรกเรื่องความเป็นมาของเนอร์จิส ที่เธอออกมาบอกเล่าว่าตัวเองคือลิลิธอยู่มานานตั้งแต่โลกนี้ถูกสร้างโดยพระเจ้า ซึ่งก็ทำให้ตัวเรื่องที่ดูตลกแบบโอเวอร์ๆ ตลอดดูเข้าใจได้ไม่จำเป็นต้องสมเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น ฉากการรตายของเลย์ล่าทั้ง 9 แบบก็เลยเป็นมุกแบบที่รอดมาได้แบบฟลุ๊คๆ ดูแถๆ ทั้งหมด ซึ่งก็ทำออกมาได้ตลกใช้ได้เลยกับไอเดียการฆ่าและการแถว่าเลย์ล่ารอดมาได้ยังไง ตัวดาราที่เล่นเองก็หน้ามึนดูเหมือนเจ็บแค่ไหนก็ทนได้ ไม่ยอมตายสักที ซึ่งโอเคเลยกับจุดขายนี้ที่หนังยังถือว่าทำได้ตรงตามพล็อตที่ขายในหน้าหนังเป๊ะๆ
รีวิว Leyla Everlasting Netflix อีแก่จ๋าทำไมฆ่าไม่ตายสักที! (มีสปอยล์ตอนจบ) 2แต่สิ่งที่ฉุดหนังให้แย่จนดิ่งลงเรื่อยๆ คือความล้นทุกอย่างที่เรื่องใส่มาเกินจากพล็อตหลัก อย่างการใส่ฉากเต้นแบบหนังอินเดีย แต่ไร้คลาส ดูโลวทุกครั้งหลังฆ่าเมีย แรกๆ อาจจะพอทนได้ แต่เรื่องกลับใส่มาซ้ำๆ จนทนไม่ไหวเพราะไม่มีสาระอะไร แถมทำให้เรื่องดูยืดยาวน่าเบื่อ แทนที่ฆ่าเมียเสร็จเราจะได้เห็นผลลัพธ์เลยว่าไม่ตายเพราะอะไร กลับต้องมาทนดูฉากเต้นร้องเพลงต่อมาทุกครั้ง แม้จะพยายามครีเอทเพลงให้เข้ากับแนวการฆ่าทุกครั้ง แต่มันออกแบบมาแย่และโลวมาก เหมือนผู้กำกับคิดว่ามันตลกเลยใส่มา แต่กลายเป็นส่วนทำลายเรื่องหลักไปทุกครั้งแทน
นอกจากนี้หนังยังใส่ตัวละครอื่นเข้ามาวุ่นวายกับเส้นเรื่องหลักเยอะมาก แถมวุ่นวายแบบแทบไม่มีเนื้อหาสาระ ทั้งหน่วยกู้ชีพปัญญาอ่อนทำตัวต๊องๆ ไม่เต็ม ทนายที่หวังเคลมเมียน้อยเศรษฐีเหมือนกัน หรือนักสะสมโบราณวัตถุที่มาตามหาบันทึกของลิลิธที่อาเด็มครอบครองอยู่ เอาล่ะมันอาจจะพอขำได้บ้างไม่แย่ไปหมด แต่รวมๆ คือมันล้นทะลักเกินกว่าพล็อตหลักมากไปจริงๆ แถมตอนจบยังมัดรวมเอามายำๆ ปิดเรื่องแบบแทบไม่มีแก่นสารอะไรเลยด้วย
ตัวเรื่องตอนก่อนจบมีเฉลยความลับบางอย่างที่ทำเอาทึ่งได้เหมือนกัน และก็เข้าท่าดีมาก แต่…..กลายเป็นว่าแทนที่จะเฉลยแล้วก็จบแบบเจ๋งๆ เรื่องกลับลากยาวใส่น้ำท่วมทุ่งไปอีกเป็นสิบๆ นาทีเพื่ออะไรก็ไม่ทราบ.. จนส่วนท้ายที่เกือบพลิกกลับมาดีได้แล้ว กลายเป็นส่วนฝังกลบเรื่องนี้ลงหลุมอย่างที่คนดูคงไม่สงสาร (เพราะทำตัวเองทั้งนั้น) ซึ่งก็กลายเป็นบทเรียนให้ผู้กำกับเลยว่า พล็อตหนังที่ดีแล้วก็ควรเล่นให้สุด อย่าไปพยายามยำใหญ่ใส่อะไรมามากมายเกินความจำเป็นเลยจริงๆ