กระแสของหนังเรื่องนี้นี่มีสองทางแบบชัดๆเลยนะครับ คือถ้าดูแล้วใครชอบก็ชอบไปเลย ใครไม่ชอบก็ด่าไปเลยเหมือนกัน เฉยๆไม่ใคร่จะมีนะ
ส่วนตัวข้าพเจ้านี้ … ชอบครับ
เนื้อเรื่องย่อมันก็ประมาณว่านักเรียนหมอจอมแหกคอก 2 คนคือหมอพาย (พอล – ภัทรพล ศิลปาจารย์) กับ หมอถุน (จิ๊บบี้ – ตะวัน แซ่ตั้ง) กับชีวิตการเรียนแพทย์ที่ต้องเจอทั้งคนไข้ รุ่นพี่เฮี้ยบๆ หมอเผด็จการ ก็คอยลุ้นกันไปล่ะครับว่าพวกเขาจะเรียนได้สำเร็จดังหวังมั้ย
ถ้าพูด ถึงความฮา หนังฮาครับฮามาก มีมุขอยู่เยอะ นักแสดงก็ทำได้ดีครับ การเดินเรื่องก็โอเคนะ เร็วดี ไม่ค่อยมีอะไรให้น่าเบื่อ สาระก็มีนี่สิครับสำคัญ
ผมชอบสิ่งที่หนังสื่อออกมาโดยเฉพาะประเด็น และคำพูดที่ได้ใจผมมากก็คือ “หมอมีหน้าที่รักษาคนไข้ ไม่ใช่รักษาภาพพจน์” ไอ้ประเด็นนี้มันมีที่มาที่ไปครับ คือประมาณว่าพฤติกรรมของ 2 หมอเรานี้มักจะแหกคอก รวมไปถึงการรักษาคนไข้หรือวิธีการเข้าถึงคนไข้ด้วย ซึ่งบางอย่างถูกมองว่าเป็นการทำลายภาพพจน์ของคนเป็นหมอ ทั้งๆที่มันเป็นการรักษาคนไข้แท้ๆอ้ะ เพียงแค่เป็นวิธีที่ต่างออกไปเท่านั้นเอง แต่ 2 หมอของเราก็โดนเล่นตลอดเลยครับจากคุณหมอที่หัวโบราณแบบโคตรๆ มันก็น่าคิดอยู่เหมือนกันว่าอะไรกันนักหนาอ้ะ
อีกอย่างสไตล์การรักษา ของแต่ละคนมันก็มีสิทธิ์แตกต่างกันได้ แล้วถ้าสไตล์เรามันต่างกับคนอื่นแต่มันก็เป็นวิธีรักษาอ้ะ เราผิดเหรอครับ เฮ่อ ไอ้ที่โดนน่ะไม่ใช่เพราะอะไรหรอก แต่เพราะผมกำลังเจออยู่เลยตอนเนี้ย ไปฝึกงานและผมก็ต้องคอยทำงานแบบเอาใจอาจารย์แต่ละท่านอยู่ คือ แบบว่าแต่ละคนมันมีสไตล์ที่ต่างกันนะครับ วันนี้เจอท่านนี้ก็ต้องทำสไตล์นี้ ถ้าไปเอาสไตล์ของอาจารย์คนอื่นมาทำในที่นี้ เราก็จะโดนหาว่าทำไมทำแบบนี้แล้วก็จะพบกับข้อชี้แจงที่ว่าวิธีนี้ไม่เหมาะ เพราะอะไร ซึ่งถ้าลองมาประมวลจะพบว่า ทุกสไตล์ของอาจารย์ทุกท่านนั้นมีจุดดีและจุดด้อยด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งจริงๆถ้าเราเอามาประยุกต์ก็น่าจะไปกันได้ แต่นี่บางทีรู้สึกว่าจะไม่ประยุกต์กันเลยนะครับ เอาแต่แบบกูของกูสไตล์กูอย่างเดียว สไตล์อื่นไม่เข้าท่า ดีไม่ดีโดนด่าอีกตู เออ เอาเข้าไปดิ
กลับ มาเรื่องหนังครับ หนังมีประเด็นดีอยู่เยอะทีเดียวอย่างไอ้ที่บอกไปนั่นแหละ ซึ่งโดยรวมๆผมว่าหนังทำได้ดีครับ แต่มันยังสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้อีกเยอะในหลายๆฉาก อย่างเช่นฉากในตอนคืนปีใหม่เป็นต้น ที่เกิดเรื่องให้หมอฝึกหัดทั้งหลายได้สำนึกกันว่า พวกเขามีหน้าที่และมีภาระที่สำคัญขนาดไหน แต่ที่ออกมาแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้นครับ จริงๆแล้วมันน่าจะวุ่นวายมากกว่านั้น เรียกได้ว่ามันต้องมาอารมณ์เดียวกับซีรี่ส์ ER เลยล่ะ ก็ไม่อยากจะเปรียบเทียบอ้ะนะครับ แต่ว่าทำออกมาทีหลังเขาน่ะ มันก็น่าจะให้ได้พอสู้เขาไหวหน่อย และอีกอย่าง ฉากนั้นมันควรออกมาให้อึ้ง กว่าที่เป็นซักหน่อย ควรจะมีวานด์เป็นเสียงโหยหวนของผู้ป่วยทั้งหลาย เอาให้มันอึ้ง ให้มันบาดทางอารมณ์ไปเลย ถ้าทำได้นะ รับรองว่าสะเทือนอารมณ์แบบสุดๆแน่นอน แต่นี่ ออกมาไม่มากครับ น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน