“The Lion King” ภาพจำยังชัดเจน…เหมือนเดิมทุกอย่าง
ภาพจำชัดเจนมาก ความฝันวัยเด็กได้กลับมาโลดแล่น…และครั้งนี้ก็สมจริงมากๆ
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก 20 กว่าปีผ่านไปในที่สุดก็ถึงเวลาของเจ้าป่าอย่าง “ซิมบ้า” จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
ปี 2019 เป็นปีที่มีภาพยนตร์จากค่ายดิสนีย์มากที่สุดปีหนึ่ง และตลอดหลายปีที่ผ่านมาภาพยนตร์แอนิเมชั่นในความทรงจำหลายเรื่องก็ถูกนำมา “รีเมค” ซึ่งก็มีทั้งทำในรูปแบบเดิมอย่าง “อะลาดิน” และในรูปแบบไลฟ์แอคชั่นอย่าง “ดัมโบ้”
สำหรับ “เดอะ ไลอ้อน คิง” เคยถูกสร้างในรูปแบบแอนิเมชั่นในปี 1994 ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย แฟนหนังต่างจำตัวละครหลักอย่าง “ซิมบ้า” หรือ “นาร่า” ได้อย่างดี รวมถึงตัวละครร่วมอื่นๆโดยเฉพาะ “สการ์” สิงโตตัวร้ายของเรื่อง
ส่วนตัวแล้วชื่นชอบภาพยนตร์แอนิเมชั่นของดิสนีย์เกือบทุกเรื่อง และ “เดอะ ไลอ้อน คิง” ก็เป็นหนึ่งในเรื่องโปรดเพราะนอกจากตัวละครน่ารักน่าชัง เพลงประกอบเพราะๆและฉากสุดตระการตาแล้ว เนื้อหาก็เรียบง่ายแต่กินใจมากๆ
ในส่วนของเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่น…เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนคงคาดหวังจะได้เจอความตื่นตาตื่นใจของเหล่าสัตว์ป่าในตำนานที่เคยเห็นในเวอร์ชั่นแอนิเมชั่น ซึ่งต้องบอกว่าไม่ผิดหวังในส่วนนี้เพราะดิสนีย์ก็ยังคงมาตรฐานทำงานศิลป์ชิ้นนี้ออกมาได้อย่างปราณีตและเหมือนจริงมากๆ…จนบางที…อาจจะเหมือนเกินไป!
ฟังดูเหมือนไม่ใช่ปัญหา…แต่ก็นั่นแหละ ทุกฉากจำในเรื่อง “เหมือนจริง” และ “เหมือนเดิม” มากๆ ซึ่งจุดนี้ต้องขอคารวะทีมสร้างที่ทำออกมาได้ดีแต่ก็เพราะความเหมือนจริงนี่แหละค่ะที่ทำให้บางช่วงของหนังดู “ขัดใจ”
ไม่แน่ใจว่าเพราะ “เดอะ ไลอ้อน คิง” เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นขึ้นหิ้งหรือเปล่า ซึ่งคงทำร้ายจิตใจแฟนๆกันเกินไปหากจะเปลี่ยนแปลงเนื้อหา ขยี้ปมตัวละคร หรือแม้แต่เปลี่ยนแปลงบางฉากบางซีนใหม่ ส่วนตัวคิดว่าจุดนี้เข้าใจได้เพราะเนื้อหาและสาระสำคัญของเรื่องนี้ค่อนข้างแน่น เป็นปมสากลที่ใครๆก็เข้าถึง แต่ที่รบกวนใจตลอดการดูคือสีหน้าและอากัปกิริยาของตัวละครที่เรา…แยกไม่ออก!
อธิบายง่ายๆก็คือในเวอร์ชั่นไลฟ์แอคชั่นนี้ ตัวละครทั้งหมดจะเป็นสิงโตจริงๆที่สีและตำหนิในตัวแทบมองไม่เห็นหรือแตกต่าง ทีนี้…ในบางฉากที่ฝูงสิงโตมารวมกันมันก็ “ขัดใจ” ที่เราแยกตัวละครบางตัวไม่ออก!
เหมือนจะเป็นปมเล็กๆแต่มันก็กวนใจไม่น้อยค่ะ เพราะเมื่อกลับไปย้อนดูเวอร์ชั่นแอนิเมชั่น สีหน้า ท่าทางแลสีสันของตัวละครนั้นชัดเจนมากๆ ทำให้เรารับสารรับเรื่องรับอารมณ์ได้โดยไม่ต้องคิดมาก
อย่างไรก็ดี…หากตัดความรำคาญข้างต้นออก ในส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะเพลงประกอบ ฉากใหม่ที่ใช้ CG ระดับเทพ รวมทั้งการออกแบบภาพที่ทำได้อย่างงดงามแล้ว “เดอะ ไลอ้อน คิง” เวอร์ชั่นนี้ก็น่าดูไม่น้อย เรียกความทรงจำวัยเด็กออกมาได้ดี…ภาพจำชัดเจนทีเดียว
แฟนๆดิสนีย์คงไม่ต้องเชิญชวนให้เจ็บคอ แต่สำหรับคนที่ลังเลก็ขอให้ลอง เพราะเอาเข้าจริงๆหนังก็มีพัฒนาการไปตามกาลเวลาค่ะ แม้จะเหมือนจริงจนแบนไปบ้างแต่มันก็ได้อารมณ์อีกแบบ…รับรองว่าไม่ผิดหวังค่ะ มาตรฐานดิสนีย์ถือว่าเชื่อถือได้ ที่สำคัญหนังเหมาะกับทุกเพศทุกวัยค่ะ ข้อคิดและสาระดีๆยังลึกซึ้งเหมือนเคยไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน